It's so kool Blog

the first thought of the rest of my life

Thursday, September 01, 2005

โอเว่น...โอ้ เวร


ฉับพลันที่ผมได้ทราบข่าวการย้ายทีมของ Michael Owen กลับสู่มาตุภูมิ ภายใต้สีเสื้อใหม่ ลายทางขาว - ดำ ทำให้ผมรู้สึก
"เฉยๆ"

ผมเกิดมาเป็นสาวกหงส์แดงในยุค spice boys ดาราขวัญใจของผมในตอนนั้นก็มี ปีกหุ่นพระเอกลิเก Steve McManaman กองกลางตัวเจ็บ Jamie Redknapp
และที่ขาดไม่ได้คือ Robbie 'God' Fowler
สอง - สามปีถัดจากนั้น การแจ้งเกิดของเจ้าหนูไมเคิ่ล โอเว่น นำมาซึ่งความหวังอันเรืองรองของชาวหงส์แดง
แฟนานุแฟนของลิเวอร์พูลตื่นใจตื่นใจกับการทำประตูเป็นกอบเป็นกำ
แต่ในฐานะของคนที่ Live Football, Breath Football คนนึง
นอกจากความเร็วแล้ว โอเว่นมิได้มีอะไรดีพอที่จะยกตัวเองขึ้นเป็นนักเตะระดับโลกได้
เมื่อถึงนาทีที่ป๋าโปนบรรจงถีบตูดกลมๆ ของฟาวเลอร์ออกจากรั้วแอนฟิลด์
เดอะ ค็อปทั้งหลายก็ไม่แยแส พร้อมทั้งชูป้ายผ้า "Forget 'God', We Have St.Michael"
แต่ไม่ใช่ผม ผมยอมรับว่า ผมใจหายกับการย้ายทีมของฟาวเลอร์มากกว่าเมื่อครั้งที่โอเว่นหนีไปซบอกทีมราชันชุดขาว

ลิเวอร์พูลมีประสบการณ์อันเลวร้ายเมื่อครั้งที่ 'แม็คก้า' หนีออกจากทีมโดยไม่มีค่าตัว
ก่อนที่จะพบเจอประสบเหตุการณ์คล้ายๆ กัน จึงต้องยอมปล่อยตัวด้วยค่าตัวอันน้อยนิด ไม่คุ้มเอาเสียเลย
(คงต้องยอมรับอีกเช่นกันว่า ชั้นเชิงทางธุรกิจของลิเวอร์พูลเป็นแค่เด็กอนุบาล เมื่อเทียบกับแมนฯ ยูฯ ของคุณปิ่น)
หงส์แดงขาดทุนกว่าใคร เมื่อนิวคาสเซิ่ลคว้าโอเว่นกลับอังกฤษมาร่วมทีมด้วยค่าตัวมหาศาล16 ล้านปอนด์
ใครๆ ก็คิดว่า รีลมาดริดกำไรเห็นๆ ซื้อโอเว่นมาด้วยราคาแค่ครึ่งเดียว
แต่จริงๆ แล้วทีมที่กำไรน่ะ นิวคาสเซิ่ลตะหาก
เพราะขาย Jonathan Woodgate ไปนั่งตบยุงตั้ง 13 ล้าน

555+

2 Comments:

Blogger ratioscripta said...

แต่มันกดไปแล้วสองนัดติดกันแล้วอ่ะครับ

อดคิดไม่ได้จริงๆ

สถิติตัวเลขมันไม่เคยโกหกใครเหมือนกัน

แล้วยิ่งมองตัวเลขทั้งประตูเข้าและประตูออก ตามจำนวนนัดของกระเด้าลมแดง ของผม (ของเรา) แล้ว

ให้ละเหี่ย

โดยเฉพาะนัดเมื่อวาน

หน้าทู่ หลังรั่ว กลางทำงานหนักและพึ่งเจอร์ราร์ดคนเดียว ถ้าบักเจิดเจ็บอีกสักคน

ไม่อยากจะคิดสงสาร

11:12 AM  
Blogger Lukasti said...

จริงครับ
วันก่อนก็โดน Chelski อัดไปอีก

เซ็งจริงๆ พับเผื่อย

10:17 AM  

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home